กรีนวู้ดอย่าตาม ฤดูก่อน เมสัน กรีนวู้ด ฉายแววเด่นกระทั่งเป็นนักฟุตบอลที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยสนใจ
กรีนวู้ดอย่าตาม จนกระทั่งขั้นที่หลายข้างเชื่อกันว่าเขาจะเป็นดาวดังคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้งของแวดวงบอลอังกฤษได้ ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะเหตุว่าฤดูกาลที่แล้วเขายิงให้กลุ่มชุดใหญ่ของ “ปีศาจแดง” ไป 17 จากการลงเล่น 49 นัดหมายในทุกรายการ
อย่างไรก็แล้วแต่ แผนภูมิที่พุ่งสูงของแข้งวัย 19 ปีกลับดิ่งลงเหวอย่างมากในตอนไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภายหลังที่เขามีปัญหาเรื่องนอกสนามหลายหน ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดกฎการกักตัวในตอนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการไปกุ๊กกิ๊กกับสาว 2 คนร่วมกับ ฟิล โฟเด้น ตอนไปเล่นให้กลุ่มชาติอังกฤษ, ข่าวกีฬาแมนยู
การไปฝึกซ้อมสาย รวมทั้งการไม่ทุ่มเทสำหรับการฝึก ฯลฯ ซึ่งมันก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยตื่นตระหนกว่าเขาบางทีก็อาจจะอนาคตดับเร็วกว่าที่คิดกันเอาไว้แน่นอน นี่ไม่ใช่หนแรกที่นักฟุตบอลซึ่งเติบโตมาจากอะคาเดมี่ของ มีปัญหาเรื่อง นอกสนาม โดยหลายคนบางทีอาจจะคิดถึง ราเวล มอร์ริสัน ได้เป็นอย่างดี
ภายหลังที่ มอร์ริสัน เคยฉายแววเด่นตอนอยู่กับกลุ่มเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด กระทั่งบางรายเปรียบเทียบเขากับ พอล แกสคอยน์ แม้กระนั้นเจ้าตัวกลับมีวินัยนอกสนามที่ย่ำแย่จนกระทั่งแจ้งกำเนิดไม่สำเร็จ
แต่กระนั้น มันยังส่งผลผลิต จากอะคาเดมี่ของ อีกผู้ที่มีปัญหากับเรื่องนอกสนามกระทั่งแปลงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อนาคต ของเขาจะต้องดับวูบ นั่นคือชายที่มีชื่อวัา มัดส์
ได้ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2000 ภายหลังที่เขาทำผลงานได้โดดเด่น ในอะคาเดมี่ของ โอเดนเซ่ ซึ่งเวลานี้ ได้รับการชมเชย จากคนภายในแวดวงบอล เดนมาร์กว่าเป็น ดาวรุ่งพุ่งแรง คนหนึ่ง แล้วก็เขาก็ใช้เวลาเพียงแต่ราว 2 ปีกลายที่กำลังจะได้เล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ของ เป็นครั้งแรก นั่นเป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก นัดที่กลุ่มของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พบกับ มัคคาบี้ ไฮฟา เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2002
นัดหมายดังที่กล่าวมาแล้วไม่เป็นผลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากพวกเขารับประกันการเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม รอบ 2 ไปเป็นที่เป็นระเบียบ เรียบร้อยแล้ว โดยที่ถูกสลับตัวลง ไปในสนามแทน ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ในนาทีที่ 79 รวมทั้งแม้ ว่าท้ายที่สุด จะแพ้ไป 0-3 แต่ว่าในขณะนั้นมัน ก็มิได้มี ผลกระทบ อะไรกับ เท่าไรนัก แถมเขายังอยู่ในกลุ่ม เยาวชนของ ชุดที่ได้แชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ประจำฤดู 2002-03 ด้วย
หนึ่งในจุดเปลี่ยนแปลงในอาชีพ กิจการค้า แข้งของ เป็นการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกลงใจเอาเด็กหนุ่มที่ชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อตอนซัมเมอร์ ปี 2003 ซึ่งทั้งยัง แล้วก็ โรนัลโด้ ชอบโดนคนในกลุ่ม เอามาเทียบ กันอยู่บ้าง แล้วก็ ก็สารภาพ เองว่าเขาสู้อีก ข้างไม่ได้ โซลชาเสียว
“เขาเป็นขั้วตรงกันข้ามของผม เขาบุกขึ้นหน้าอย่างเต็มที่, มีความยืนหยัดมั่นคง และก็เชื่อมั่นในตัวเองอย่างยิ่ง เมื่อใดก็ตามพวกเราดวลกันในสนามน่ะเขาจะก่อให้ผมไม่มีแรงได้เสมอ ในขณะที่ที่จริงแล้วผมเป็นพวกไม่มีแรงได้ยากมากมายเลยจ้า แต่ว่าเขาทำให้ ผมหมดสภาพได้” เคยกล่าวเอาไว้แบบงั้นใน Red Devil หนังสือชีวประวัติของเขาเอง
อย่างไรก็ดี เวลานี้มัน ก็ยังไม่จัดว่า หมดอนาคตกับ ด้วยเหตุว่า เขายังได้อยู่ในกลุ่มเยาวชนของสมาพันธ์ถัดไป และก็หลาย คนมั่นใจว่าเขายังได้โอกาสก้าวขึ้นมาสู่กลุ่มชุดใหญ่ของกลุ่มได้…จนกว่าถึงวันที่ 14 เดือนมกราคม ปี 2004
ในวันนั้น ขับขี่รถ ออกมาจาก สนใจริงตัน สนามฝึกซ้อมของกับ คัลลั่ม ฟลานาแกน เพื่อนฝูงร่วม กลุ่มของเขา แต่ว่าพวกเขา ดันคิดบันเทิงใจด้วยการตัดสินใจที่จะแข่งขันซิ่งรถยนต์กัน โดยที่ในรถของ ฟลานาแกน มี ฟิล มาร์ช อีกหนึ่งหน้า แข้งเยาวชนของ นั่งอยู่ด้วย ซึ่งทั้งสองต่างก็เหยียบคันเร่งด้วยความเร็วระหว่าง 60-65 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งๆที่พื้นที่แถบนั้นกำหนด ให้ขับได้เร็วสุดเพียงแต่ 40 ไมล์ต่อชั่วโมงแค่นั้น
สุดท้ายแล้วรถของ ฟลานาแกน ก็เสียการควบคุมกระทั่งไปชนกับรถยนต์คันหนึ่งแบบสุดแรงเกิด ทำให้หญิงคนหนึ่งที่มิได้เกี่ยวเนื่องกับการแข่งขันของพวกเขาเลยจะต้องได้รับบาดเจ็บ ส่วน มาร์ช ก็จะต้องให้ข้าราชการมาช่วยแงะ ออกมาจากรถยนต์ โดยที่ ก็โดนตั้งข้อกล่าวหาในหัวข้อนี้ด้วย โทษฐานที่เป็นคน ซิ่งรถแข่งกับ ก่อนที่จะนำมาซึ่งอุบัติเหตุรุนแรง
ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าประเด็นนี้ ทำให้คนของ โกรธมากๆโดยที่ ฟลานาแกน โดนขับออกมาจากสมาพันธ์ในทันที ส่วนถึงจะยังได้อยู่กับกลุ่มต่อ แม้กระนั้นมันก็ทำ ให้อนาคต ของเขาแขวนอยู่บนด้าย
ในอีกราว 1 ปีให้หลัง ศาลก็ตัดสินว่าทั้งสองมีความผิดจริง โดยที่ โดนส่งเข้าสถานกัก กันเยาวชนนนา 12 เดือน ส่วนของ ฟลานาแกน โดนไป 8 เดือน แถมพวกเขายังถูกตัดสิทธิ์จากการขับรถนาน 3 ปีด้วย โดยผู้พิพากษาถึงขั้นพูดว่ามันโชคดีขนาดไหนแล้วที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเรื่องในคราวนี้
สุดท้ายแล้ว ก็โดนปล่อย ออกมาจาก ในปี 2006 พร้อมด้วยการได้เล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ เพียงแต่ราว 11 นาทีเพียงแค่นั้น
โดยจากนั้นเขา ก็ไปอยู่กับ โอเดนเซ่ แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้จนแขวนสตั๊ดกับ ลิงบี้ ในปี 2009 ก่อนที่จะกลับมาเล่นกับ เคอร์เทไม่นเด้ กลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งในบ้านกำเนิดในปี 2011 แล้วก็แทบเป็นผู้ที่ถูกลืมไปอย่างสิ้นเชิง